top of page
self-esteem course cover blog page.jpg
  • พิชาวีร์ เมฆขยาย

10 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณมี Mindset กลัวคนไม่รัก


คนเราคิดกับตัวเองยังไง ความคิดเหล่านั้นสะท้อนออกมาที่การกระทำหมด เพราะมันคือเรื่องของ Mindset ที่กำหนดชะตากรรมของแต่ละคน บางคนกลัวการนินทา กลัวคนไม่รัก เพราะเชื่อว่าหากมีคนไม่ชอบ นั่นแปลว่าเขาไม่มีคุณค่า เขาเลยต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้คนอื่นไม่พอใจ

อาการกลัวคนไม่รัก และอ่อนไหวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์และความคิดเห็นของคนอื่นมากเกินไปนั้น คือส่วนหนึ่งของ low Self-esteem หรือภาวะที่มองไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง หลายตำราทางจิตวิทยานั้น นักจิตวิทยาบอกว่า เกิดจากความเชื่อต่อตัวเองที่แปะป้ายบนหน้าผากว่า ...

คนไม่รัก คนอื่นไม่พอใจฉัน = ฉันไม่มีคุณค่า

คนเหล่านี้จะใช้ปฏิกิริยาและความคิดเห็นจากคนอื่น มาวัดคุณค่าของตัวเอง ซึ่งมันดูไม่ค่อย make sense เท่าไหร่ว่ามั้ยคะ อยู่ดี ๆ เราจะเอาคุณค่าในตัวเราออกไปให้คนอื่นมาตัดสินเราทำไม แต่ในความเป็นจริงแล้ว mindset แบบนี้เกิดขึ้นกับหลายคนมาก และมักจะถูกสร้างมาตั้งแต่วัยเด็ก แล้วเติบโตขึ้นมาพร้อมคนคนนั้น ทั้งที่เขารู้ตัวหรือไม่ก็ตาม กลายเป็นความเชื่อฝังหัวที่ติดตัวไปจนจากโลกนี้ไป

มาดูกันว่า mindset ที่กลัวคนไม่รักดูจากสัญญาณอะไรได้บ้าง

1. การถูกตำหนิหรือวิจารณ์คือฝันร้ายสุด ๆ

คุณอาจรู้สึกกลัวและเครียดมากทุกครั้งที่รู้สึกถูกตำหนิ ถูกวิจารณ์ หรือได้รับ feedback เพื่อให้ปรับปรุงหรือพัฒนาบางเรื่องก็ตาม คุณจึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้ถูกคอมเม้นท์ในทางลบ หรือเลือกที่จะหนี ไม่รับคำวิจารณ์ใด ๆ เลย

2. เกร็ง เก๊ก ฝืน ไม่เป็นตัวเองตลอดเวลาที่อยู่กับคนอื่น

คุณจะกลัวทุกฝีก้าวว่าอาจไปทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าเกิดไม่พอใจหรือไม่ชอบขี้หน้าคุณขึ้นมา พูดเหนียม ๆ ทำท่าเก๊ก และคิดอยู่ตลอดว่าคนอื่นอาจสังเกตเห็นข้อบกพร่องบางอย่างของคุณ

3. มักตัดสินใจแบบที่ทำให้คนอื่นพอใจ

สิ่งที่ยากที่สุดของคุณคือการตัดสินใจใด ๆ ที่ทำให้มีคนไม่พอใจ แม้แต่กับเรื่องเล็กน้อย เช่น การเลือกสั่งอาหาร ที่ต้องถามและตามใจคนอื่นตลอด ทั้งที่ตัวเองอาจจะไม่ชอบแม้แต่น้อยก็ตาม ดังนั้นคุณจะปฏิเสธคนได้ยากมาก การพูดว่า ไม่ ในแต่ละครั้งดูเหมือนจะทำให้คุณนอนไม่หลับไปทั้งคืนก็เป็นได้

4. ชมคนอื่นพร่ำเพรื่อ ยกย่องมากเกินไป

ด้วยความที่รู้ว่า เมื่อชื่นชมยกย่องใคร คนนั้นจะรู้สึกดี และเป็นมิตรกับคนพูดมากขึ้น คุณจึงพยายามจะยกย่องเชิดชูคนอื่นตลอด เพื่อทำให้เขายอมรับในตัวคุณ

5. เสียสละพลังงานและเวลาของตัวเองเพื่อช่วยคนอื่น

แม้ ณ ขณะนั้นตัวเองก็ยังมีสิ่งที่ต้องทำ แต่หากคุณกลัวคนไม่รัก คุณจะเสียสละพลังงานและเวลาของตัวเองให้กับคนอื่น คอยช่วยแก้ปัญหา ช่วยทำงานที่เขาค้างอยู่ แม้งานของคุณเองก็เต็มมือและทำไม่ทันอยู่แล้วก็ตาม หรือคอยอาสาจะทำให้คนอื่นอยู่เสมอ

6. ฟ้าแทบถล่มเมื่อรู้ว่ามีคนนินทา

คุณจะกลัวการนินทามาก หมายถึงกลัวตัวเองจะถูกคนอื่นพูดถึงไม่ดีในทางลับหลัง กลายเป็น topic ตลก ๆ ให้คนเอาไปนินทาหัวเราะกันสนุกสนาน และหลายครั้งยังเพิ่มดีกรีด้วยการหวาดระแวงว่า สิ่งที่คนอื่นกำลังทำอยู่นั้นคือกำลังพูดถึงคุณอยู่รึเปล่า

7. ไม่กล้าทักท้วงหรือเรียกร้องสิทธิ์ให้ตัวเอง

คนที่กลัวคนไม่รักมักจะขี้เกรงใจและจะระวังไม่ไปกวนใจคนอื่น ยิ่งการเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองจากคนอื่น หรือทักท้วงว่าคนอื่นกำลังทำไม่ถูกนั้นยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ หากเป็นแบบนี้คุณจึงมักปล่อยผ่าน ยอมให้คนอื่นได้สิ่งนั้นไป ทั้งที่ตัวคุณเองอาจกำลังถูกเอาเปรียบหรือรุกล้ำสิทธิ์อยู่ก็ตาม

8. กลัวความขัดแย้งเหนือสิ่งอื่นใด

คุณจะไม่ทะเลาะ ไม่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับใคร คุณกลัวบรรยากาศที่เป็นปรปักษ์ต่อกันและด่าทอต่อว่ากัน คุณจะเลือกทำให้บรรยากาศสุขสงบเป็นมิตร คุณจึงประนีประนอมเก่ง หยวน ๆ หรือยอมให้อีกฝ่ายได้ไป เพื่อแลกกับมิตรภาพที่ยังอยู่

9. มักติดปากด้วยคำว่า อะไรก็ได้, ตามใจ

เนื่องจากคุณจะไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะเกรงว่าการเป็นตัวเองจะไปทำให้ใครซักคนไม่ชอบขี้หน้า เมื่อต้องอยู่ในจุดตัดสินใจร่วมกัน คุณจึงสบายใจกว่าที่จะพูดว่า อะไรก็ได้, ตามใจเธอเลย และเชื่อว่าหากคนอื่นได้เลือกในสิ่งที่เขาชอบ เขาก็จะพึงพอใจคุณไปด้วย

10. ใจดีเกินเหตุ

เมื่อคนอื่นมาขออะไร คุณก็มักจะให้ เนื่องด้วยกลัวคนอื่นจะไม่รักหากไม่ให้ บางครั้งไม่ใช่แค่คนอื่นมาขออย่างเดียว แต่คุณอาจเป็นฝ่ายให้ก่อนเพราะอยากจะเอาอกเอาใจ ซึ่งเหตุผลจากแตกต่างจากการที่ให้เพราะอยากให้ แต่คุณให้เพื่อแลกกับการที่คนอื่นจะรู้สึกดีกับคุณ

กรอบความคิด ความเชื่อเหล่านี้สามารถปรับเปลี่ยนและพัฒนาได้ แต่หากความเชื่อเหล่านี้ฝังรากลึกมานานตั้งแต่คุณยังเด็กจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของบุคลิกภาพคุณไปแล้ว คงต้องใช้ความพยายามในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา รวมถึงต้องอาศัยเวลาด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนชั่วข้ามคืนได้ยาก แต่อย่างไรก็ตาม ขอให้เชื่อว่าหากพยายามมากพอ ยังไงคุณก็พัฒนาได้

จำไว้ว่าอย่าปล่อยให้ใครมาเล่นเกมคุณค่ากับคุณ เพราะถ้าคุณไม่ลุกขึ้นมากำหนดเองว่าคุณค่าคุณควรอยู่ตรงไหน คุณก็จะตกเป็นเหยื่อของคนบางคนอยู่ร่ำไป

หากต้องการตัวช่วยและมืออาชีพในการนำพาคุณให้พัฒนา Self-esteem ให้รักและเห็นคุณค่าในตัวเอง มีประเด็นที่ค้างคาใจมานาน อยากแก้ไขแต่แก้เองไม่ได้ซักที คุณอาจกำลังต้องการนักจิตวิทยาที่คอยมาเป็นเหมือนเพื่อนร่วมเดินทาง เพื่อไปสู่การกลายเป็นคนที่รักตัวเอง มี Self-esteem สูง โดยคอร์สออนไลน์ Self-esteem นอกจากบทเรียนเกือบ 20 บทแล้ว คุณยังจะได้สิทธิ์ในการพูดคุยปรึกษากับนักจิตวิทยาทีมผู้สอนแบบไม่จำกัด ดูรายละเอียดได้ที่นี่

bottom of page