- พิชาวีร์ เมฆขยาย
เหตุผลที่คุณไม่กล้าเป็นตัวของตัวเอง
หากคุณได้อ่านบรรดาหนังสือพัฒนาตัวเองหรือเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของคนที่ประสบความสำเร็จทั้งหลาย สิ่งหนึ่งที่เป็นคำแนะนำที่เห็นได้บ่อย คือ คุณต้องเป็นตัวของตัวเอง เพราะมันสะท้อนถึงความสุขในชีวิตของคุณ ที่ไม่ต้องไปผูกติดกับความคิดเห็นหรือความคาดหวังของคนอื่นมากนัก สามารถคิด พูด กระทำในสิ่งที่ตัวอย่างต้องการจริง ๆ (โดยไม่เดือดร้อนใคร)
เรื่องนี้พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะเหล่าผู้คนที่เดินเข้ามาเรียนและปรึกษาปัญหากับแวน ส่วนใหญ่ไม่กล้าเป็นตัวของตัวเอง แวนจึงกลับมาศึกษาและวิเคราะห์อย่างจริงจังว่า เป็นเพราะอะไร และสรุปสาเหตุออกมาได้ว่า เป็นเพราะอีโก้ที่ปกป้องคนคนนั้นอยู่ คนเราทุกคนต้องมีกลไกปกป้องตัวเองที่เป็นสัญชาตญาณเพื่อให้พ้นจากอันตรายรอบตัว แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป อันตรายที่ว่านั้นเปลี่ยนตามไปด้วย จากที่เคยกลัวภัยธรรมชาติ หรือสัตว์ร้าย แต่ยุคนี้คนเรากลับกลัวการไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม กลัวถูกมองไม่ดี ถูกตำหนิ ถูกวิจารณ์ ถูกดูถูก กลไกปกป้องตัวเองของหลาย ๆ คนจึงทำงานโดยการห้ามไม่ให้ตัวเองกล้าแสดงออกมากเกินไป ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวจะถูกหาว่าไม่มีกึ๋น ไม่กล้าทำตัวตามสบาย เพราะกลัวคนอื่นจะมองไม่ดี กลไกปกป้องตัวเองเหล่านี้ คืออีโก้ คือ ตัวกู-ของกู ที่คอยป้องกันไม่ให้ใครมาทำร้ายจิตใจ แต่สิ่งที่ต้องระวังคือหากมีมากไป มันจะทำให้คุณกลายเป็นคนขี้กลัว ไม่กล้าแสดงออก กลัวการเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น นั่นคืออาการหนึ่งของความไม่มั่นใจในตัวเอง
ความไม่มั่นใจในตัวเองทำให้คุณรู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอ และกลัวว่าการจะคิดจะพูดจะทำแบบคุณนั้นจะเป็นที่ยอมรับของคนอื่นหรือไม่ ซึ่งอาจถูกคนอื่นตัดสินว่าไม่เก่งพอ
หากเป็นเช่นนั้นคุณควรเรียนรู้ที่จะมองอันตรายเหล่านั้นให้เป็นภัยคุกคามน้อยลงบ้าง และไม่ให้ความสำคัญไปมากกว่าการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข รักตัวเอง รวมถึงการได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องแคร์มากไปว่าคนอื่นจะมองอย่างไร ที่สำคัญคือเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง หากกำลังถูกคนอื่นคุกคามด้วยทัศนคติ คำพูด หรือการกระทำที่ทำให้คุณสูญเสียความมั่นใจ เพราะสิ่งเหล่านั้นจะมีความหมายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการตีความและให้ค่าของคุณเอง
และอีกสาเหตุหนึ่งที่บางคนไม่กล้าเป็นตัวของตัวเอง คือการถูกปลูกฝังให้ต้องเป็นคนแบบที่สังคมคาดหวัง ทั้งที่ตัวตนของทุกคนย่อมมีบางส่วนที่ไม่ได้เป็นไปตามแบบพิมพ์นิยม จึงทำให้หลาย ๆ คนพยายามเก็บกดตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้กลายเป็นคนนอกคอก หรือแหกกฎออกนอกกรอบ จนไม่เป็นที่ยอมรับ
ดังมีสุภาษิตไทยที่ว่า "ทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน" สิ่งนี้ก็สะท้อนค่านิยมที่ต้องการให้ทุกคนปฏิบัติเหมือน ๆ กัน ถ่อมตัว ไม่แสดงความสามารถมากเกินไป ไม่ทำตัวแตกต่าง ไม่แสดงความคิดเห็นแย้งกับกลุ่ม หรือทำตัวให้โดดเด่นแตกต่างจากคนอื่นมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องมีความสมดุล ในยุคนี้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นปัจเจกมากขึ้น การเป็นตัวของตัวเองกลับได้รับความนิยมและมีมูลค่ามหาศาล ในการทำธุรกิจหรือในวงการบันเทิง ทุกคนต้องพยายามเป็นตัวของตัวเองให้แตกต่างจากคนอื่น เพื่อให้ตัวเองโดดเด่นออกมา แม้อาจจะทำให้ผู้คนบางกลุ่มไม่ชอบ แต่ยิ่งพวกเขาชัดเจนกับตัวเองมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเรียกศรัทธาจากกลุ่มคนที่รักในตัวตนพวกเขามากเท่านั้น
ดังนั้น หากเซเลบริตี้ระดับโลกยังไม่สามารถทำให้ทุกคนบนโลกรักคุณได้ คุณเองก็ไม่จำเป็นต้องพยายามฝืนตัวเองเพื่อทำให้คนทั้งโลกรักคุณเช่นกัน จงเป็นตัวของตัวเอง แล้วคุณจะพบความสุขในชีวิต รวมทั้ง Self-esteem ที่มากขึ้นอีกด้วย
Comments