top of page
self-esteem course cover blog page.jpg
  • พิชาวีร์ เมฆขยาย

7 ข้อที่บ่งบอกว่าทีมของคุณมี EQ สูง

ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence: EI) หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ EQ คือความสามารถในการรับรู้ เข้าใจ และบริหารอารมณ์ตัวเองและคนอื่น ในที่ทำงานคนที่ฉลาดทางอารมณ์จะควบคุมอารมณ์และแรงจูงใจของตัวเองได้ดีกว่า มีวินัยดีกว่า และมีทักษะทางสังคมที่ดีกว่า

working team

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ความฉลาดทางอารมณ์ ถือเป็นกลุ่มของความสามารถหรือทักษะที่ประกอบไปด้วยความสามารถหลัก 5 ด้าน คือ 1. การตระหนักรู้และเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง (Self-awareness) 2. การบริหารจัดการอารมณ์ตัวเอง และการจูงใจตัวเอง (Self-control) 3. การปรับตัว (Adaptability) 4. การเข้าใจคนอื่น (Empathy) 5. การบริหารอารมณ์คนอื่น (Influencing)

เจ้าพ่อ EQ คือ Daniel Goleman ได้ทำการศึกษาวิจัยมาจำนวนมากและได้ข้อสรุปว่า คนทำงานและหัวหน้าที่มีความฉลาดทางอารมณ์สูงจะมีผลงานที่โดดเด่นกว่าคนทำงานและหัวหน้างานทั่วไป และยิ่งเห็นความแตกต่างชัดในงานระดับผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง คุณจะเห็นว่ามีงานวิจัยยืนยันเป็นจำนวนมากว่า คนที่มี EQ จะทำผลงานได้ดีกว่า นอกจากนี้คนที่มี EQ สูงจะทำงานเป็นทีมได้ดีกว่า แล้วคุณลองจินตนาการดูว่า ถ้าคนที่มี EQ จำนวนมาก หรือเกือบทุกคนมี EQ สูง มาทำงานอยู่ในทีมเดียวกัน ทีมนั้นจะมีประสิทธิภาพและมีผลงานสูงมากแค่ไหน ในทางตรงกันข้าม หากทีมหรือองค์กรไหนเต็มไปด้วยคนที่ EQ ต่ำ โมโหก็ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ไม่สนใจฟังคนอื่น ไม่แคร์ว่าคนอื่นจะรู้สึกหรือคิดอย่างไร ไม่มีทักษะทางสังคม ไม่มีความเห็นอกเห็นใจคนอื่น หรือควบคุมวินัยตัวเองไม่ได้ ทำงานตามอารมณ์ จะเกิดอะไรขึ้นกับทีมหรือองค์กรนั้น

>> 5 เหตุผลที่คนมีความฉลาดทางอารมณ์ประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น นอกจากแต่ละคนจะมีระดับความฉลาดทางอารมณ์ของตัวเองแล้ว ทีม หรือองค์กรก็มีระดับความฉลาดทางอารมณ์เช่นกัน มาดูตัวอย่างกันว่า 7 ข้อที่บ่งบอกว่าทีมหรือองค์กรนั้นมี EQ สูง มีอะไรบ้าง

1. ไม่มีการเมือง หรือการเมืองในองค์กรจะน้อย การเล่นการเมืองบ่งบอกถึงการใช้พลังอำนาจ อิทธิพล และกำลังภายในเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ เมื่อมีคนมาอยู่รวมกันเยอะ ๆ และมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง การเล่นกับอำนาจจึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงได้ยาก แต่กลุ่มคนที่มี EQ สูงนั้น พวกเขาจะเข้าอกเข้าใจคนอื่น และรับฟังกันและกัน พวกเขาจะมุ่งแสวงหาทางออกร่วมกันแบบ win-win มากกว่าที่จะฟาดฟันและหวังให้ตัวเองชนะแต่เพียงผู้เดียว รวมทั้งพวกเขามีแนวโน้มจะสื่อสารกันแบบตรงไปตรงมา โดยมีวาระซ่อนเร้น (hidden agenda) น้อยกว่าคนที่ EQ ต่ำ 2. ไม่มีดราม่า หรือดราม่าน้อย ดราม่ามักจะเกี่ยวกับเรื่องภาวะอารมณ์และการแสดงออก คนที่ชอบดราม่ามักเป็นพวกที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกนำเหตุผล และแสดงออกมามาก เรียกแบบภาษาชาวบ้านว่า เล่นใหญ่ ทีมงานที่มี EQ สูงจะมีแนวโน้มสื่อสารกันด้วยเหตุผล แม้ไม่พอใจ ไม่เห็นด้วย หรือรู้สึกโกรธ พวกเขายังคงควบคุมอารมณ์ได้ มีการแสดงออกในระดับที่เหมาะสม และสื่อสารด้วยคำพูดที่ตรงไปตรงมา

3. ฟังกันและกันในที่ประชุม หลายคนอาจเคยมีประสบการณ์เข้าประชุมที่น่าเบื่อหรืออึดอัด เพราะหลายครั้งที่คนที่มีอำนาจกว่า หรือเสียงดังกว่า มักจะควบคุมการประชุม บงการมติในที่ประชุม โดยไม่เปิดโอกาสให้ใครคนอื่นได้พูดบางครั้งหนักกว่านั้นคือมีด่าทอ ขึ้นเสียง หรือตบโต๊ะใส่กันอีกต่างหาก แต่สำหรับทีมที่ EQ สูง พวกเขาจะรับฟังกัน ไม่ว่าคนที่กำลังพูดนั้นมีตำแหน่งอะไร แต่พวกเขาก็กล้าหาญและเปิดใจที่จะรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น จะว่าไปแล้ว “การฟัง” อาจถึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมากที่สุด สำหรับผู้นำที่เก่ง หรือคนที่ประสบความสำเร็จมามาก นอกเหนือไปจากนั้น พวกเขายังรู้จักการบริหารอารมณ์ของบรรดาคนที่เข้าประชุมด้วยกันด้วยอารมณ์ขัน หากเห็นว่าบรรยากาศกำลังตึงเครียดจนเกือบถึงจุดระเบิด พวกเขาก็จะรับรู้ได้เร็วและมีวิธีจัดการที่มีประสิทธิภาพ 4. มีแรงจูงใจและวินัยด้วยตัวเอง คนที่มี EQ สูงจะมีวิธีบริหารอารมณ์ของตัวเองรวมถึงอารมณ์ที่ต้องทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ แม้จะรู้สึกไม่อยากทำก็ตาม ต่างจากคนที่บริหารอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มักจะทำตามความรู้สึก ความอยากไม่อยากของตัวเองอยู่เสมอ ผลงานของพวกเขาจึงขึ้น ๆ ลง ๆ ตามอารมณ์มากไป และมีแนวโน้มจะเลือกทำแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วทิ้งส่วนที่ไม่ชอบทำไว้ทีหลังแม้สิ่งนั้นจะสำคัญกว่าก็ตาม คนที่ EQ สูงจึงมักทำงานได้มากกว่า มีผลงานมากกว่า เพราะพวกเขาควบคุมให้ตัวเองทำในสิ่งที่ควรทำได้ ทีมที่ EQ สูง หัวหน้าจึงไม่ต้องคอยจับตามองหรือควบคุมมากเกินไป เพราะพวกเขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไว้ใจให้รับผิดชอบงานเองได้ 5. กล้าพูด กล้าแย้ง กล้าแสดงความคิดเห็น บรรยากาศที่ทุกคนกล้าแสดงความคิดเห็น หรือกล้าเห็นแย้งกันนั้นไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ และไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกทีม โดยเฉพาะในวัฒนธรรมองค์กรแบบไทย ๆ ทางฝั่งตะวันตกนั้น การคอมเม้นท์หรือตักเตือนกันตรง ๆ อาจเป็นเรื่องปกติ แต่หากที่ประเทศไทยทำได้แบบนั้น นั่นเกิดจากการตั้งใจออกแบบให้เป็น ซึ่งพื้นฐานเกิดจากสองส่วนคือ ผู้นำ และสมาชิกในทีมที่มี EQ สูง ที่กล้าเปิดใจรับฟังคำตักเตือนหรือ feedback นั้นด้วยทัศนคติที่เป็นกลางหรือเป็นบวก โดยไม่รีบปกป้องตัวเองหรือสวนกลับด้วยอารมณ์ที่โกรธพรั่งพรู และจะยิ่งน่าท้าทายไปกว่านั้น เมื่อลูกน้องสามารถให้ feedback หัวหน้าของตัวเองได้ และหัวหน้าก็กล้าที่จะเปิดใจรับฟัง และกล้าขอโทษเมื่อทำผิดจริง

6. ยืดหยุ่นและยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว คนที่ EQ ต่ำมักปิดกั้น ปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ได้ช้า และมักไม่รับการเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ เนื่องจากติดกับวิธีการทำงานเดิม แต่กลุ่มที่คนมี EQ สูงจะปรับตัวได้ง่ายกว่า ยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้ตัวเองจะรู้สึกลำบากหรือไม่สะดวกในช่วงแรก แต่พวกเขาก็บริหารจัดการกับอารมณ์ของตัวเองให้ก้าวผ่านจุดที่ไม่สบายนั้นไปให้ได้ รวมถึงหัวหน้าทีมที่มี EQ สูงจะยืดหยุ่นในวิธีการทำงานมากกว่า โดยอนุญาตให้ทีมงานได้ปรับเปลี่ยนวิธีของตัวเอง แต่ยังคงไปสู่เป้าหมายเดียวกัน โดยไม่ยึดติดว่าต้องทำตามสิ่งที่เคยทำมามากเกินไป 7. มีความคิดสร้างสรรค์ สืบเนื่องจากการรู้จักปรับตัวและยืดหยุ่นในวิธีการทำงานรวมถึงวิธีคิด ทำให้ทีมที่มี EQ สูงมักจะผลิตไอเดียใหม่ ๆ วิธีการที่ดีขึ้น หรือสิ่งที่สร้างสรรค์ได้มากขึ้น อาจเป็นเพราะหัวหน้าและทีมที่มี EQ สูงจะเปิดใจรับความผิดพลาดได้มาก รวมทั้งมีอารมณ์ขัน ทำให้พวกเขามีแนวโน้มจะสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือสิ่งใหม่ได้ดีกว่า ออกนอกกรอบได้มากกว่า ความฉลาดทางอารมณ์ไม่ได้สร้างความแตกต่างแค่ในระดับบุคคล แต่ในระดับทีม หรือระดับองค์กร ก็สามารถแยกทีมงานที่มีผลงานสูงออกจากทีมงานทั่วไปได้เช่นกัน ไม่เฉพาะแค่ผลงาน แต่บรรยากาศการทำงาน และวัฒนธรรมในการทำงานก็จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง คงไม่มีคนไหนที่ชอบทำงานในบรรยากาศที่มีแต่ดราม่า เล่นการเมือง ไม่ยืดหยุ่น ไม่ต้องการการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น คนที่เป็นหัวหน้าเองต้องหันมาให้ความสำคัญกับ EQ ของทีมคุณให้มากขึ้น โดยเริ่มจาก EQ ของหัวหน้าเองก่อน

ทั้งผู้นำและคนทำงานควรได้รับการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ทุกคน โดยเริ่มได้จากคอร์สพัฒนาตัวเองทางออนไลน์ที่สามารถเริ่มพัฒนาได้ทันที ซึ่งคอร์สนี้จะมีทีมผู้สอนคอยให้คำปรึกษาแบบ Private Chat ตลอดโปรแกรม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้นำและคนทำงานทุกคนจะสามารถพัฒนา EQ ของตนเองได้จริง ดูรายละเอียดคอร์สได้ >> ที่นี่

bottom of page