top of page
self-esteem course cover blog page.jpg
  • พิชาวีร์ เมฆขยาย

5 เหตุผลที่คนมีความฉลาดทางอารมณ์ประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น

อัปเดตเมื่อ 24 พ.ย. 2563


ความฉลาดทางอารมณ์

หากคุณอยากประสบความสำเร็จในการทำงานและชีวิตทุกด้าน ความฉลาดทางอารมณ์สำคัญกว่า IQ แม้เด็กเรียนเก่งแค่ไหน แต่หากไม่เคยถูกฝึกให้พัฒนาทักษะชีวิตและความสัมพันธ์กับคนอื่น คนคนนั้นย่อมอยู่ยากและเติบโตได้ยากในสังคมที่เรียกร้องการทำงานเป็นทีมมากกว่าโตเดี่ยว มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ได้เพราะรวมกลุ่มกันเป็นสังคม ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้เพราะทำงานเป็นทีม และมนุษย์ทุกคนต่างมีอารมณ์ความรู้สึก ดังนั้นการรู้จักบริหารอารมณ์ตัวเองและอารมณ์คนอื่นได้ จึงสำคัญอย่างมาก สิ่งนั้นเรียกว่า ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence เรียกย่อว่า EI แต่คนไทยมักคุ้นกับ EQ มากกว่า เพราะเรียกให้สอดคล้องกับ IQ) ทีนี้มาดูสิ่งที่ยืนยันเป็นตัวเลขจากงานวิจัยกันบ้าง

  • หัวหน้าที่มี EQ สูง ลูกน้องจะมีแนวโน้มลาออกลดลง -400%

  • คนที่มี EQ สูงจะมีรายได้มากกว่าค่าเฉลี่ยคนทั่วไปเกือบ +1,000,000 บาทต่อปี

  • ธุรกิจที่บริหารโดยผู้นำที่มี EQ สูง จะมีอัตราการเติบโตของกำไร +22% ต่อปี

  • หัวหน้างานในโรงงานที่ได้รับการฝึกอบรมเรื่องการบริหารอารมณ์ ช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุในโรงงานได้ -50%

  • 90% ของคนที่มีผลการทำงานดีเลิศมี EQ สูง

  • EQ เป็นปัจจัยความสำเร็จในการทำงานถึง 58%

เมื่อคุณต้องการสร้างความสัมพันธ์กับคนรัก คุณจำเป็นต้องใช้ความฉลาดทางอารมณ์มาบริหารความสัมพันธ์ เช่นเดียวกันกับเมื่อคุณอยู่กับเพื่อน ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน หรือคนอื่นในสังคม คุณคงไม่จำเป็นต้องฉลาด IQ สูงลิบลิ่วเพื่ออยู่อย่างมีความสุขกับคนเหล่านั้น แต่คุณจำเป็นต้องใช้การฟัง การเห็นอกเห็นใจ การควบคุมอารมณ์ และการรู้จักบริหารอารมณ์คนอื่นต่างหาก มาดู 5 เหตุผลว่าทำไมคนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ถึงมีโอกาสประสบความสำเร็จมากกว่าคนอื่น

1. พวกเขาตระหนักรู้ตัวเอง ว่าเป็นคนยังไง หัวร้อนง่ายหรือไม่ ชอบวู่วาม ยับยั้งอารมณ์ไม่อยู่ พูดอะไรออกไปเพื่อความสะใจแล้วมาเสียใจทีหลังหรือไม่ ฯลฯ เหล่านี้จะนำคุณไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงตัวเองได้ง่ายกว่า ทุกวันนี้คนที่เป็นตัวปัญหาในครอบครัว ชีวิตคู่ สังคม หรือชีวิตไม่ก้าวหน้าซักที มักเกิดจากการไม่รู้ตัวเองว่า ต้องปรับแก้ไขตรงไหน จนกลายเป็นที่เอือมระอาของคนรอบข้าง ซึ่งนำไปสู่การเลือกที่จะถอยห่างออกไปจากคนคนนั้นในที่สุด การรู้ตัวเองยังรวมถึงรู้ตัวว่าชอบอะไร อยากทำอะไร เก่งอะไร ไม่ถนัดอะไร ซึ่งคุณสมบัตินี้จำเป็นมากสำหรับคนที่ก้าวหน้าเร็วและผู้นำ คนที่ประสบความสำเร็จจะรู้ตัวค่อนข้างชัดเจนว่าอยากทำอะไร มีอุดมการณ์ในเรื่องไหน มีเป้าหมายชีวิตอะไร เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ตระหนักรู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวเอง การทำงานและการพัฒนาตัวเองจึงทำแบบสะเปะสะปะไร้ทิศทางนั่นเอง 2. พวกเขาควบคุมอารมณ์ได้ คนที่ฉลาดทางอารมณ์ควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า เพราะคนทั่วไปมักพลาดพลั้งให้กับอารมณ์หัวร้อน หรืออารมณ์ชั่ววูบของตัวเอง เผลอไผลไปกับสิ่งยั่วยุจนเสียใจทีหลังมานักต่อนัก แต่คนที่มี EQ ที่ดีจะยับยั้งชั่งใจได้ มีสติมากพอที่จะตามอารมณ์ตัวเองทัน ไม่เผลอพูดหรือทำอะไรเพียงเพื่อความสะใจ ที่มักเกิดเหตุการณ์ “หงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์” จนเกิดความเสียหายทีหลัง หากคุณไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อาจจะทำร้ายคนรอบตัวทั้งทางความรู้สึกและทางร่างกาย รวมถึงทำลายอนาคตตัวคุณเอง ซึ่งไม่ใช่เพียงประเด็นของการระงับอารมณ์โกรธ แต่ยังรวมถึงการยับยั้งใจเรื่องอื่น ๆ ที่อาจทำลายความสัมพันธ์กับคนที่รัก เพื่อทำในสิ่งที่ถูกต้อง เช่น ความซื่อสัตย์ต่อคนรักของตัวเองโดยไม่เผลอใจไปหาคนอื่น

3. พวกเขาจูงใจตัวเองเป็น ชีวิตคนเราไม่มีทางที่จะกระตือรือร้นตลอดเวลา แต่ย่อมมีขึ้นมีลง ขยันทุ่มเท สลับกับขี้เกียจ ท้อ เบื่อ เป็นธรรมดา แต่คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะหาทางกระตุ้นความรู้สึกว่าต้องลงมือทำในสิ่งที่ต้องทำขึ้นมาอีก คนที่มี EQ ที่ดีจะมีวินัยมากกว่าคนที่ตกเป็นทาสของอารมณ์มากไป พวกเขาจะหาทางเอาชนะข้ออ้าง ความกลัว ความขี้เกียจให้ได้ เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ยากและยิ่งใหญ่ในที่สุด รวมไปถึงเวลาที่คุณเกิดความผิดหวัง เศร้า เสียใจในชีวิต คนที่จูงใจตัวเองได้จะรีบดึงตัวเองพ้นจากวิกฤตให้ไว เพื่อกลับมาตั้งสติ ตั้งต้นใหม่ รวมถึงกลับมามีความสุขใหม่ได้อีกครั้ง ในขณะที่คนที่มี EQ ต่ำมักจมอยู่กับความรู้สึกมากเกินไป และยอมให้อารมณ์ความรู้สึกนำพาตัวเองให้ดิ่งลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งปล่อยปละละเลยชีวิตด้านอื่น ๆ จนเสียหาย 4. พวกเขาเข้าใจคนอื่นได้ดี “การฟัง” ถือเป็นสุดยอดกุญแจแห่งความสำเร็จในความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกัน คนที่มี EQ ที่ดีจะพยายามหาวิธีเข้าใจความรู้สึก ความคิด มุมมอง และประสบการณ์ของอีกฝ่ายให้ได้ ไม่ว่าจะฟังจากสิ่งที่อีกฝ่ายนั้นพูดหรือสังเกตภาษาร่างกาย ในขณะที่คนที่มี EQ ที่ไม่ดีนัก มักจะตัดสินโลกและตัดสินคนอื่นจากมุมมองของตน ซ้ำร้ายบางคนยังไม่พยายามที่จะเปิดใจรับฟังคนอื่นด้วยซ้ำ คนเหล่านี้จึงมักสร้างความอึดอัดให้กับคนรอบตัวเสมอ คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะมี Empathy หรือการเห็นอกเห็นใจคนอื่น เอาใจเขามาใส่ใจเรา นั่นช่วยขับเคลื่อนให้ความสัมพันธ์ให้เจริญงอกงาม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการร่วมใจกันทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่เกินที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดจะทำสำเร็จเองได้

5. พวกเขาบริหารคนอื่นเก่ง คนที่ฉลาดทางอารมณ์นั้นนอกจากจะเข้าใจความรู้สึกและความคิดของคนอื่นแล้ว ยังสามารถรู้วิธีบริหารอารมณ์คนอื่นได้ด้วย เวลาที่ใครบางคนโกรธ คนเหล่านี้จะมีวิธีทำให้คนที่โมโหนั้นสงบลง พวกเขามีวิธีพูด มีวาทะศิลป์ รวมทั้งมีอารมณ์ขัน เวลาที่ใครบางคนเศร้า พวกเขาก็จะมีวิธีปลอบใจให้รู้สึกดีขึ้น ซึ่งทักษะนี้สำคัญสำหรับคนที่เป็นผู้นำอย่างมาก รวมถึงการสามารถเข้าสังคมได้อย่างกลมกลืน นอกจากนี้คนมี EQ ที่ดียังสามารถโน้มน้าวใจให้คนคล้อยตามหรือทำตามได้ พวกเขาจะรู้ว่าต้องพูดอย่างไร หรือทำอย่างไร คนอื่นจึงจะคล้อยตามหรืออินไปกับสิ่งที่เขาต้องการ หากเป็นพนักงานขาย พวกเขาก็จะมีวิธีเจาะไปยังปัญหา และความต้องการอันแท้จริงของลูกค้า จนได้ใจลูกค้า และเขายอมควักเงินในที่สุด ในขณะที่คนมี EQ ที่ไม่ดีนักอาจจะปล่อยเลยตามเลย คนอื่นว่ายังไงก็ว่าตามกัน โดยไม่กล้าลุกขึ้นมานำทางคนอื่นให้ไปยังทิศทางที่ตัวเองต้องการ รวมถึง ไม่รู้ใจว่าคนอื่นต้องการอะไร และไม่มีวาทศิลป์ที่จะหว่านล้อมให้ใครคนไหนทำตามได้ ทักษะทุกอย่างล้วนสร้างได้ ความฉลาดทางอารมณ์ก็เช่นกัน หากคุณต้องการจะเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จทั้งในงาน ชีวิตส่วนตัว และความสัมพันธ์ จงเริ่มพัฒนาตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อสร้างพื้นฐานที่ดีให้กับชีวิตของคุณ

คอร์สพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ Emotional Intelligence for Life and Work Success พัฒนาขึ้นสำหรับคนทำงาน นักธุรกิจ และหัวหน้าทีมโดยเฉพาะ 30 บทเรียนที่ครอบคลุมทั้งการพัฒนาส่วนบุคคล การเข้าสังคมและการสร้างความสัมพันธ์ การทำงานเป็นทีม ตลอดจนการเป็นหัวหน้าทีมที่ต้องสร้างอิทธิพลต่อทีมงาน ไม่เฉพาะแต่คอร์สเรียน แต่ยังมีพี่เลี้ยงส่วนตัว เป็น Private mentor จากทีมผู้สอนคอยให้คำปรึกษาโดยเฉพาะตลอดการเรียน


 

ความฉลาดทางอารมณ์: 10 ข้อที่บอกว่าคุณมี EQ สูง



bottom of page